
ด้วยหน้าที่การงาน ผมจำเป็นต้องมี connection กับคนหลากหลาย จำเป็นต้องพูดคุยเจรจา ประสานงานในหลายๆอย่าง แต่รู้สึกว่างานมันไม่ค่อยสมูท บางคนที่เราไปติดต่อด้วยก็พูดไม่ค่อยดี ไม่ค่อยให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่ แต่กลับกัน เวลาผมไปกับเพื่อนร่วมงานที่มีหน้าตาและบุคลิกดี เอาง่ายๆดูรวมๆแล้วเป็นคนที่สมาร์ทมาก เวลาเขาเข้าไปเจราพูดคุยประสานงาน ทุกคนให้ความร่วมมือละกระตือรือร้นเต็มใจที่จะช่วยเหลือเขา พูดด้วยดีมาก ยิ้มแย้ม ต่างกับตอนที่ผมเข้าไป connection ด้วยก่อนหน้านี้ นี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมต้องกลับมาดูแลสุขภาพตัวเองอย่างจริงจัง
ผมเริ่มจาการซื้อดัมเบลมายกที่ห้อง ยกก่อนนอนและตอนเช้าก่อนไปทำงาน ก็ทำอย่างนี้ประจำ แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงกับร่างกายมากนัก แค่รู้สึกว่าแขนแข็งแรกมากขึ้น
ต่อมาไปซื่อเวย์โปรตีนมาทานควบคู่ หุ่นก็ดูใหญ่ขึ้นนะครับ แต่มันไม่ได้รูปทรงองเอวอะไร แถมดูอวบอ้วนขึ้น
ต่อมาก็เพิ่มพวกวิตามันซีมาทาน แต่ก็อย่างที่ว่าละครับ ผมแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเลย
และแล้วสุดท้ายผมก็ค้นพบ 3 ขั้นต้อนของวิธีการที่ฟิตหุ่นให้ดูดี เป็นหลักการคร่าวๆนะครับ ดังนี้
-ลดน้ำหนักให้ได้สะก่อน
-ควบคุมอาหารให้เหมาะสมกับการใช้พลังงานของเราเองในแต่ละวัน
-ออกกำลังกายให้หุ่นฟิตได้สัดส่วน
คืออย่างนี้ครับ ผมเชื่อว่าการที่เราจะทำให้หุ่นฟิตไร้ไขมัน และสมบูรณ์แบบที่สุด
สเต็ปที่1 ควรต้องลดน้ำหนักตัวให้น้อยลงก่อน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวเวลาออกกำลังกาย เคยเห็นคนอ้วนมากๆออกกำลังกายไหมครับ เขาจะทำท่าต่างๆแทบไม่ได้เลย วิ่งก็เสี่ยงต่อการบาดเจ็บของข้อเท้า เหนื่อยง่ายเพราะต้องแบกรับน้ำหนักตัวที่หนักมากๆ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องลดน้ำหนักก่อนในช่วงแรก
สเต็ปที่2 เมื่อน้ำหนักตัวลดแล้ว ให้ควบคุมอาหาร ผมไม่ได้หมายถึงว่าต้องทานน้อยลงนะครับ เพียงแต่ให้เลือกทานแต่สิ่งที่ไขมันและพลังงานน้อยๆ ให้เลือกทานผักผลไม้และแหล่งโปรตีนแทน และสามารถทานในปริมาณเท่าเดิม ไม่ต้องลดปริมาณ เพราะถ้าลดปริมาณอาหารที่จะทานลง คุณก็จะรู้สึกเหนื่อย มืนงงปวดหัว ดังนั้นไม่ควรลดหรืองดอาหารเด็ดขาด
เสต็ปที่3 คือร่างกายก็พร้อมที่จะออกกำลังกาย เผาผลาญพลังงาน รีดไขมันออก สร้างและกระชับกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนได้ เพราะตอนนี้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้ดีและพร้อมที่จะออกกำลังกายเพื่อให้หุ่นของสมบูรณ์แบบ
ลดน้ำหนักให้ได้สะก่อน
อันนี้ไม่ยากมีสองอย่างให้เลือกคือ
1 ควบคุมอาหารประเภทไขมัน งดน้ำหวานทุกชนิด เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมบอกสิ่งที่ควรกินในช่วงนี้ ให้กินข้าวในปริมาณน้อยลงเพิ่มพักให้มากขึ้น กินโปรตีนจากไก่ ปลา หมูที่มีไขมันต่ำ เอาแค่นี้พอไหวไหมครับประมาณ 2-4 เดือนรับรองน้ำหนักลดลงแน่นอน ส่วนใครคิดว่าไม่ไหวและไม่มีเวลา ผมแนะนำให้ทำตามข้อสองครับ
2 ผมแนะนำให้ทานแอลทูร่า เป็นสมุนไพรที่ช่วยทำให้น้ำหนักตัวคุณลดลงโดยไม่ต้องงดอาหารอะไรเลย คุณสามารถทานอาหารได้ตามปกติ ตัวสมุนไพรแอวทูร่าจะทำให้คุณไม่รู้สึกหิว อันนี้ตัวยาสมุนไพรไม่ได้ไปสั่งหรือออกฤทธิ์ต่อสมองนะครับ ตัวแอลทูร่านี้ไม่มีสารกดประสาทแน่นอน สามารถเช็คส่วนผสมของแอลทูร่าจากที่ได้ขึ้นทะเบียน อ.ย.ไว้ แค่ตัวสมุนไพรจะไปขยายอาหารที่เรากินเข้าไปมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้เราทานอาหารไปนิดเดียวแต่อาหารมันขยายตัวเต็มกระเพาะ ทำให้เรารู้สึกอิ่มไว เห็นไหมครับหลักการทำงานของแอลทูร่าไม่ได้ไปทำลายระบบประสาทเลย เหมือนตัวลดความอ้วนชนิดอื่น แอลทูร่ายังช่วยเบิร์นสลายไขมันตามเอว ต้นเขน ต้นขา หน้าท้องด้วย และช่วยจับดักไขมันใหม่ๆที่เพิ่งทานเข้าไป แล้วขับออกมาในรูปของการขับถ่าย แต่เราต้องทานน้ำให้มากๆ เพราะจะช่วยให้แอลทูร่าไปกระตุ้นการเผาผลาญมากขึ้น ทำให้น้ำหนักเราลดได้โดยที่ไม่ต้องออกกำลังกาย แนะนำทาน 1-2 เดือนก็พอแล้ว หลังจากน้ำหนักลด ให้หยุดทาน หันมาควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องครับ
3 ออกกำลังกายให้หุ่นฟิต ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราแล้วครับว่าอยากได้หุ่นฟิตแค่ไหน น้ำหนักลดลงจากสเต็ปที่2แล้ว แต่ร่างกายยังต้องการการออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อกระชับได้ทรวดทรงองเอว (อันนี้มีลายละเอียดและเคล็ดลับการออกกำลังให้ได้ผลฉะเพราะส่วนค่อนข้างมาก ผมขอยกไปเขียนอีกเรื่องแล้วกันรับ
ถ้าคุณทำได้ทั้งสามสเต็ป ผมรับรองเลยว่าได้ผลลัพธิ์ที่ดีแน่นอน น้ำหนักลดลงอย่างแน่นอนภายใน 2 เดือน น้ำหนักลด หุ่นฟิต ได้ภายใน 4 เดือน วิธีการนี้ผมทำมาจนถึงปัจจุบันและเพื่อนหลายคนที่ทำตามก็หุ่นดีกันหมดแล้ว คงพูดได้ว่าเราเคยอ้วน 555 สรุปนะครับผม ไม่มีแอลทูร่าก็ลดน้ำหนักได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลาและความอดทน ถ้าต้องการความสะดวก ลดง่าย เห็นผลในระยะ 1-4 เดือน ให้ทานแอลทูร่าในระยะแรกเพื่อลดน้ำหนักและสลายไขมันที่เก็บสะสมมาเป็นเวลานานออกไปก่อน แล้วกลับมาควบคุมอาหารและออกกำลังกายตามปกติ


| หน้าที่เข้าชม | 565,351 ครั้ง |
| ผู้ชมทั้งหมด | 469,899 ครั้ง |
| เปิดร้าน | 1 เม.ย. 2560 |
| ร้านค้าอัพเดท | 22 ต.ค. 2568 |